สัญญาทั้งหมด/สัญญาเช่าบ้าน

ตัวอย่างเอกสาร

6,263 ตัวอักษร

สัญญาเช่าอสังหาริมทรัพย์ / Lease Agreement

 

สัญญาฉบับนี้ทำขึ้นเมื่อวันที่ [วัน] เดือน [เดือน] พ.ศ. [ปี]

 

คู่สัญญา

 

ผู้ให้เช่า: [คำนำหน้า] [ชื่อ] [นามสกุล] เลขประจำตัวประชาชน [เลขบัตรประชาชน 13 หลัก]

ที่อยู่ เลขที่ [ที่อยู่] ตำบล/แขวง [ตำบล/แขวง] อำเภอ/เขต [อำเภอ/เขต] จังหวัด [จังหวัด] รหัสไปรษณีย์ [รหัสไปรษณีย์]

เบอร์โทรศัพท์ [เบอร์โทร] อีเมล [อีเมล] (ต่อไปในสัญญานี้เรียกว่า "ผู้ให้เช่า")

 

ผู้เช่า: [คำนำหน้า] [ชื่อ] [นามสกุล] เลขประจำตัวประชาชน [เลขบัตรประชาชน 13 หลัก]

ที่อยู่ปัจจุบัน เลขที่ [ที่อยู่] ตำบล/แขวง [ตำบล/แขวง] อำเภอ/เขต [อำเภอ/เขต] จังหวัด [จังหวัด] รหัสไปรษณีย์ [รหัสไปรษณีย์]

เบอร์โทรศัพท์ [เบอร์โทร] อีเมล [อีเมล] (ต่อไปในสัญญานี้เรียกว่า "ผู้เช่า")

 

คู่สัญญาทั้งสองฝ่ายตกลงทำสัญญาเช่าอสังหาริมทรัพย์กันโดยมีข้อความดังต่อไปนี้

 

ข้อ 1 ทรัพย์สินที่เช่า

 

1.1 ผู้ให้เช่าตกลงให้เช่าและผู้เช่าตกลงเช่าอสังหาริมทรัพย์ประเภท [บ้านเดี่ยว/ทาวน์เฮาส์/คอนโดมิเนียม/อพาร์ทเมนต์]

 

1.2 ที่ตั้ง: บ้านเลขที่ [เลขที่] หมู่ [หมู่] ซอย [ซอย] ถนน [ถนน] ตำบล/แขวง [ตำบล/แขวง] อำเภอ/เขต [อำเภอ/เขต] จังหวัด [จังหวัด] รหัสไปรษณีย์ [รหัสไปรษณีย์]

 

1.3 รายละเอียดทรัพย์สิน:

- พื้นที่ใช้สอย: [จำนวน] ตารางเมตร

- จำนวนห้องนอน: [จำนวน] ห้อง

- จำนวนห้องน้ำ: [จำนวน] ห้อง

- ที่จอดรถ: [มี/ไม่มี] [จำนวนคัน]

 

1.4 เฟอร์นิเจอร์และอุปกรณ์ที่มาพร้อมการเช่า:

- [ระบุรายการเฟอร์นิเจอร์และเครื่องใช้ไฟฟ้า เช่น โซฟา ตู้เย็น แอร์ เตียง]

- ตามบัญชีรายการทรัพย์สินที่แนบท้ายสัญญานี้

 

ข้อ 2 ระยะเวลาการเช่า

 

2.1 ระยะเวลาการเช่า: เริ่มตั้งแต่วันที่ [วันเริ่มต้น] พ.ศ. [ปี] ถึงวันที่ [วันสิ้นสุด] พ.ศ. [ปี] รวมระยะเวลา [จำนวนเดือน/ปี]

 

2.2 หมายเหตุ: หากสัญญาเช่าเกิน 3 ปี ต้องจดทะเบียนสัญญาเช่าต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 538

 

ข้อ 3 ค่าเช่าและการชำระเงิน

 

ฟรี

พร้อมใช้งานทันที

สัญญาเช่าบ้าน: คู่มือกฎหมายฉบับสมบูรณ์สำหรับผู้ให้เช่าและผู้เช่า

สัญญาเช่าบ้านคืออะไร?

สัญญาเช่าบ้านหรืออสังหาริมทรัพย์เป็นสัญญาตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 537-571 ที่ผู้ให้เช่า (เจ้าของบ้านหรือผู้มีสิทธิ์ให้เช่า) มอบที่อยู่อาศัยให้ผู้เช่าใช้ประโยชน์ โดยผู้เช่าต้องจ่ายค่าเช่าตอบแทน

สัญญาเช่าบ้านแบ่งเป็น 2 ประเภท:

  1. สัญญาเช่าระยะสั้น (ไม่เกิน 3 ปี) - ทำเป็นหนังสือหรือปากเปล่าก็ได้ แต่แนะนำให้ทำเป็นหนังสือเพื่อหลักฐาน
  2. สัญญาเช่าระยะยาว (เกิน 3 ปี) - ต้องทำเป็นหนังสือและจดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ตามมาตรา 538 มิฉะนั้นจะถือว่าเป็นสัญญาเช่าไม่มีกำหนดเวลา

องค์ประกอบสำคัญของสัญญาเช่าบ้าน

สัญญาเช่าที่สมบูรณ์ต้องมีองค์ประกอบดังนี้:

1. คู่สัญญา

  • ผู้ให้เช่า: ต้องเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์หรือผู้มีสิทธิ์ให้เช่าตามกฎหมาย ควรตรวจสอบเอกสารสิทธิ์ (โฉนดที่ดิน หนังสือรับรองการทำประโยชน์ ฯลฯ) และบัตรประชาชน
  • ผู้เช่า: ต้องเป็นผู้บรรลุนิติภาวะ (อายุ 20 ปีบริบูรณ์) หรือได้รับความยินยอมจากผู้ปกครอง

2. ทรัพย์สินที่เช่า

  • ระบุรายละเอียดทรัพย์สินให้ชัดเจน: ที่อยู่บ้านเลขที่ ขนาดพื้นที่ จำนวนห้อง สิ่งอำนวยความสะดวก
  • บันทึกสภาพทรัพย์สินก่อนส่งมอบ (ถ่ายรูป/วิดีโอ ทำบัญชีรายการทรัพย์สิน)
  • ระบุอุปกรณ์เครื่องใช้ที่มาพร้อมการเช่า (เฟอร์นิเจอร์ เครื่องใช้ไฟฟ้า)

3. ค่าเช่าและการชำระเงิน

  • อัตราค่าเช่า: ระบุจำนวนเงินต่อเดือน/ปี (ตัวเลขและตัวอักษร)
  • กำหนดชำระ: วันที่และวิธีการชำระ (โอนเงิน/เงินสด/เช็ค)
  • ค่าสาธารณูปโภค: ระบุว่าใครรับผิดชอบค่าไฟ น้ำ อินเทอร์เน็ต ค่าส่วนกลาง
  • การปรับค่าเช่า: ระบุเงื่อนไขการเพิ่มค่าเช่า (ถ้ามี)

4. เงินประกัน

ตามมาตรา 562 ผู้ให้เช่ามีสิทธิ์เรียกเงินประกันความเสียหายได้ โดยทั่วไป:

  • บ้านเช่ารายเดือน: 2 เดือนเป็นมาตรฐาน (ไม่มีกฎหมายกำหนดแน่นอน)
  • บ้านเช่ารายปี: 1-3 เดือน

เงื่อนไขการคืนเงินประกัน:

  • คืนเมื่อสิ้นสุดสัญญาหากไม่มีความเสียหาย
  • หักค่าซ่อมแซมได้ตามความเสียหายจริง (ต้องมีหลักฐาน)
  • ห้ามนำไปชดเชยค่าเช่าค้างโดยไม่ได้ตกลงกันก่อน

5. ระยะเวลาการเช่า

  • มีกำหนดเวลา: ระบุวันเริ่มต้นและสิ้นสุดชัดเจน เมื่อครบกำหนดสัญญาสิ้นสุดโดยอัตโนมัติ
  • ไม่มีกำหนดเวลา: ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งอาจบอกเลิกได้โดยบอกกล่าวล่วงหน้าตามสมควร

6. หน้าที่และความรับผิดชอบ

หน้าที่ผู้ให้เช่า (มาตรา 548-552):

  • ส่งมอบทรัพย์สินให้อยู่ในสภาพพร้อมใช้งาน
  • ดูแลซ่อมแซมโครงสร้างหลักและระบบสำคัญ (หลังคา ระบบไฟฟ้า ประปา)
  • รับผิดชอบภาษีโรงเรือนและภาษีที่ดิน
  • ไม่กระทำการใดๆ ที่ขัดขวางการใช้ประโยชน์ของผู้เช่า
  • รับประกันสิทธิ์การเช่าตลอดระยะเวลาสัญญา

หน้าที่ผู้เช่า (มาตรา 553-559):

  • จ่ายค่าเช่าตรงเวลา
  • ใช้ทรัพย์สินโดยประมาทเสมือนทรัพย์สินของตนเอง
  • ซ่อมแซมเล็กน้อยที่เกิดจากการใช้งานปกติ
  • ไม่ดัดแปลงโครงสร้างโดยไม่ได้รับอนุญาต
  • ไม่ให้บุคคลอื่นเช่าช่วงโดยไม่ได้รับอนุญาต (มาตรา 543)
  • แจ้งผู้ให้เช่าเมื่อมีความเสียหายร้ายแรง
  • คืนทรัพย์สินเมื่อสิ้นสุดสัญญา

7. เงื่อนไขพิเศษ

  • การนำสัตว์เลี้ยงเข้าพัก
  • จำนวนผู้อาศัย
  • ข้อห้ามการใช้งาน (เช่น ห้ามสูบบุหรี่ ห้ามทำธุรกิจ)
  • สิทธิ์การต่อสัญญา

สิทธิ์ตามกฎหมายที่ควรทราบ

สิทธิ์ผู้เช่า

  1. สิทธิ์เลิกสัญญาก่อนกำหนด (มาตรา 541-542):

    • หากผู้ให้เช่าไม่ส่งมอบทรัพย์สินหรือส่งมอบล่าช้า
    • หากทรัพย์สินชำรุดบกพร่องจนใช้การไม่ได้
    • หากผู้ให้เช่าไม่ซ่อมแซมตามหน้าที่
  2. สิทธิ์หักค่าเช่า:

    • หากผู้ให้เช่าไม่ซ่อมแซม ผู้เช่าอาจซ่อมเองและหักค่าเช่าได้ (มาตรา 551)
  3. สิทธิ์รับค่าปรับปรุงทรัพย์สิน:

    • หากปรับปรุงโดยได้รับอนุญาตและเป็นประโยชน์ต่อทรัพย์สิน มีสิทธิ์เรียกค่าใช้จ่ายตามมาตรา 559

สิทธิ์ผู้ให้เช่า

  1. สิทธิ์บอกเลิกสัญญา:

    • ผู้เช่าค้างชำระค่าเช่า 2 งวดติดต่อกัน (มาตรา 545)
    • ผู้เช่าใช้ทรัพย์สินผิดวัตถุประสงค์หรือทำให้เสียหาย
    • ผู้เช่าให้บุคคลอื่นเช่าช่วงโดยไม่ได้รับอนุญาต
  2. สิทธิ์เรียกค่าเสียหาย:

    • หากผู้เช่าทำทรัพย์สินเสียหายเกินปกติ
    • หากผู้เช่าไม่คืนทรัพย์สินเมื่อสิ้นสุดสัญญา

ภาษีและค่าใช้จ่าย

  1. ภาษีโรงเรือนและที่ดิน: ผู้ให้เช่ารับผิดชอบ (ยกเว้นตกลงเป็นอย่างอื่น)
  2. ค่าธรรมเนียมจดทะเบียนสัญญา: ปกติแบ่งกันคนละครึ่ง (0.1% ของค่าเช่ารวมตลอดสัญญา)
  3. ค่าสาธารณูปโภค: ตามที่ตกลงกันในสัญญา
  4. อากรแสตมป์: 1 บาทต่อฉบับ (หากทำสัญญาเป็นหนังสือ)

การจดทะเบียนสัญญาเช่า

สัญญาเช่าที่ต้องจดทะเบียน (มาตรา 538):

  • ระยะเวลาเกิน 3 ปี
  • ทำที่สำนักงานที่ดินจังหวัดหรือสาขา
  • เตรียมเอกสาร: บัตรประชาชน เอกสารสิทธิ์ สัญญาเช่า
  • ค่าธรรมเนียม: 1 ใน 1,000 ของค่าเช่ารวมตลอดสัญญา (แบ่งกันฝ่ายละครึ่ง)

ผลของการไม่จดทะเบียน:

  • สัญญาจะกลายเป็นสัญญาเช่าไม่มีกำหนดเวลา
  • ไม่สามารถยึดถือต่อบุคคลภายนอกได้
  • ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งอาจบอกเลิกได้ตามสมควร

การบอกเลิกสัญญาเช่า

การเลิกสัญญาปกติ

  1. สัญญามีกำหนดเวลา: สิ้นสุดโดยอัตโนมัติเมื่อครบกำหนด
  2. สัญญาไม่มีกำหนดเวลา: บอกกล่าวล่วงหน้า 30 วัน (หรือตามที่ตกลง)
  3. ตกลงกันเลิกสัญญา: คู่สัญญาทั้งสองฝ่ายยินยอม

การเลิกสัญญาก่อนกำหนด

ฝ่ายผู้เช่า:

  • มีเหตุจำเป็น (ย้ายงาน เจ็บป่วย) - อาจต้องจ่ายค่าปรับตามสัญญา
  • ทรัพย์สินไม่อยู่ในสภาพที่ใช้งานได้ - ไม่ต้องจ่ายค่าปรับ

ฝ่ายผู้ให้เช่า:

  • ผู้เช่าผิดสัญญาอย่างร้ายแรง
  • ผู้เช่าค้างค่าเช่า 2 งวดขึ้นไป
  • ต้องการใช้เองหรือขายทรัพย์สิน (ต้องบอกกล่าวล่วงหน้าตามสมควร)

ข้อควรระวังสำหรับผู้เช่า

  1. ก่อนทำสัญญา:

    • ตรวจสอบเอกสารสิทธิ์กรรมสิทธิ์ของผู้ให้เช่า
    • ตรวจสภาพบ้านทุกห้อง ถ่ายรูป/วิดีโอทุกมุม
    • ทดสอบระบบไฟฟ้า ประปา เครื่องใช้ทุกชิ้น
    • อ่านสัญญาทุกข้อ ถามทุกข้อสงสัย
  2. ขณะทำสัญญา:

    • ลงนามสัญญา 2 ฉบับ เก็บไว้ฝ่ายละ 1 ฉบับ
    • เก็บหลักฐานการจ่ายเงินทุกครั้ง (ใบเสร็จ/โอนเงิน)
    • ทำบัญชีรายการทรัพย์สินและสภาพเริ่มต้น
  3. ระหว่างเช่า:

    • จ่ายค่าเช่าตรงเวลา เก็บหลักฐาน
    • แจ้งความเสียหายทันทีที่พบ
    • ขออนุญาตก่อนดัดแปลงทรัพย์สิน
    • เก็บหลักฐานการติดต่อทุกครั้ง
  4. สิ้นสุดสัญญา:

    • แจ้งความประสงค์ล่วงหน้า (ต่อสัญญาหรือออก)
    • ทำความสะอาดเรียบร้อยก่อนส่งคืน
    • ถ่ายรูป/วิดีโอสภาพก่อนส่งคืน
    • ตรวจรับมอบร่วมกับผู้ให้เช่า
    • เรียกคืนเงินประกันภายใน 7-30 วัน (ตามที่ตกลง)

ข้อควรระวังสำหรับผู้ให้เช่า

  1. คัดเลือกผู้เช่า:

    • ขอสำเนาบัตรประชาชน หลักฐานการทำงาน
    • ขอข้อมูลผู้ติดต่อกรณีฉุกเฉิน
    • ตรวจสอบประวัติหากจำเป็น (ผ่านบริษัทรักษาความปลอดภัย)
  2. ทำสัญญาให้ครบถ้วน:

    • ระบุกฎเกณฑ์ทุกข้ออย่างชัดเจน
    • มีข้อกำหนดค่าปรับกรณีผิดสัญญา
    • ระบุขั้นตอนแจ้งซ่อมและระยะเวลาซ่อม
  3. ดูแลรักษา:

    • ตรวจสภาพอสังหาริมทรัพย์เป็นระยะ
    • ซ่อมแซมตามหน้าที่ทันที
    • เก็บหลักฐานค่าใช้จ่ายทั้งหมด
  4. ป้องกันข้อพิพาท:

    • รับเงินค่าเช่าด้วยการโอนเงินเพื่อหลักฐาน
    • ออกใบเสร็จทุกครั้งที่รับเงิน
    • บันทึกการติดต่อสื่อสารทุกครั้ง

การแก้ไขข้อพิพาท

หากเกิดข้อพิพาท มีวิธีแก้ไขดังนี้:

  1. เจรจาตกลงกัน: พยายามแก้ปัญหาด้วยการเจรจาก่อน
  2. ใช้บริการไกล่เกลี่ย: ผ่านสำนักงานคุ้มครองผู้บริโภค หรือสำนักงานอัยการจังหวัด
  3. ฟ้องร้องศาล: หากไม่สามารถตกลงกันได้

อายุความ:

  • ฟ้องเรียกค่าเช่า: 2 ปี (มาตรา 193/30)
  • ฟ้องเรียกค่าเสียหาย: 1 ปี นับแต่รู้เหตุและรู้ตัวผู้ทำ (มาตรา 448)

เคล็ดลับการทำสัญญาเช่าที่ดี

  1. ใช้ภาษาที่เข้าใจง่าย: หลีกเลี่ยงศัพท์กฎหมายซับซ้อน
  2. ระบุรายละเอียดให้ครบถ้วน: ยิ่งละเอียดยิ่งดี
  3. ทำเป็นหนังสือทุกครั้ง: ถึงไม่บังคับก็ควรทำ
  4. เก็บหลักฐานครบถ้วน: รูปภาพ วิดีโอ ใบเสร็จ การติดต่อ
  5. ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ: หากมีข้อสงสัยหรือกรณีพิเศษ

สรุป

สัญญาเช่าบ้านที่ดีคือสัญญาที่:

  • ชัดเจน ครบถ้วน เป็นธรรมต่อทั้งสองฝ่าย
  • ระบุสิทธิและหน้าที่ของแต่ละฝ่ายอย่างชัดเจน
  • ป้องกันข้อพิพาทในอนาคต
  • เป็นไปตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด

การทำสัญญาเช่าที่รอบคอบจะช่วยให้ทั้งผู้ให้เช่าและผู้เช่าอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข หากมีข้อสงสัยควรปรึกษาทนายความก่อนลงนาม


คำเตือน: เนื้อหาในบทความนี้เป็นเพียงข้อมูลทั่วไปเพื่อความรู้เบื้องต้นเท่านั้น ไม่ถือเป็นคำแนะนำทางกฎหมาย กรณีมีข้อสงสัยหรือปัญหาเฉพาะควรปรึกษาทนายความที่มีใบอนุญาต